ในการเขียนข่าว การพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ จะมีวิธีการเขียน Grammarแบบแปลก ๆ เช่น
- Premier to visit Vietnam
(ไม่มีกริยาแท้ของประโยคเลย ?)
- Volunteer, rangers killed in ambush
(แล้วอาสาสมัครกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ไปฆ่าใครในเหตุการณ์ลอบยิงละนี่ ?)
- Car crashed kills 2
(ตัวอย่างนี้เหตุการณ์เกิดแล้ว แต่กริยายังใช้รูปปัจจุบัน)
ฯลฯ
การเขียนพาดหัวข่าวแบบทั่วไปมี 5 ลักษณะใหญ่ ๆ ดังนี้
(Sentence Structure of News Headline)
1. S + v1
อย่างแรกจะเป็นเหตุการณ์ที่ประโยคเต็มเป็น S+v2 ธรรมดา(Past Simple)
: Suvarnabhumi fire kills 1 worker
มาจากประโยค Suvarnabhumi fire killed 1 worker.
อย่างแรกจะเป็นเหตุการณ์ที่ประโยคเต็มเป็น S+v2 ธรรมดา(Past Simple)
: Suvarnabhumi fire kills 1 worker
มาจากประโยค Suvarnabhumi fire killed 1 worker.
2. S + to infinitive
อย่างที่สองนี้จะเป็นเหตุการณ์ที่ประโยคจริงกล่าวถึงอนาคต(Future)
: PM to visit Japan
มาจากประโยค Prime Minister is going to visit Japan.
3. S + v3
อย่างที่สามจะใช้เพื่อบอกว่าประธานถูกกระทำ (Passive)
: 3 cops killed in the series of fatal attacks
มาจากประโยค 3 cops were killed in the series of fatal attacks.
4. S + v.ing
อย่างที่สี่ใช้เพื่อแสดงว่าเป็นการกระต่อเนื่อง (Continuous)
: 10 missing in flash flood
มาจากประโยค 10 people is still missing in the flash flood.
5. S + to be v3
อย่างที่ห้าจะบอกว่าประธานจะถูกกระทำในอนาคต (Passive - Future)
: Abducted American to be released soon
มาจากประโยค An abducted American will be released soon.
ลักษณะของประโยค มีสามแบบ (Types of News Headline)
1. มีรูปประโยคบอกเล่าธรรมดา กล่าวถึงเนื้อหา แบบเดียวกับประโยคตัวอย่างด้านบน ทั่วไป
2. ประโยคเป็นคำถาม
- Police allowed jailbreak?
- Police allowed jailbreak?
3. มีรูปประโยคที่เกิดจากการคัดลอกคำพูด
- Lee: US bases vital for Asian security
ในข่าวภาษาอังกฤษ มักจะใช้ตัวย่อ เช่น
PM – Prime Minister MPs – Members of Parliament
KR – Khmer Rouge Govt. – Government
Wh – Question
Wh – Question คือ คำที่ใช้แสดงคำถาม ที่ต้องการให้ผู้ตอบ บอกข้อมูล เรื่องราว ที่ผู้ถามต้องการทราบ คำถามประเภทนี้เราเรียกว่า Information Questions ส่วนมากจะขึ้นต้นด้วย “ Wh ”
Wh – Question เป็นคำที่ใช้ขึ้นต้นประโยคคำถาม และใช้เมื่อต้องการคำตอบที่เป็นข้อมูลหรือข้อเท็จจริง เราจะไม่ตอบด้วย Yes หรือ No
ตารางคำที่ใช้แสดงคำถามและความหมาย
คำที่ใช้แสดงคำถาม | |||||
Wh-Question | ความหมาย | Wh-Question | ความหมาย | Wh-Question | ความหมาย |
Who | ใคร | What | อะไร | Why | ทำไม |
Whom | ใคร | Where | ที่ไหน | Which | สิ่งไหน/อันไหน |
Whose | ของใคร | When | เมื่อไร | How | อย่างไร |
Wh – Question หรือคำที่ใช้แสดงคำถาม มีอยู่ทั้งหมด 9 มีวิธีการใช้ดังนี้
Who
1. Who มีความหมายว่า “ใคร” เป็น Pronoun อย่างเดียว ใช้ขึ้นต้นประโยคคำถามเมื่อต้องการทราบว่าใครหรือคนใด ทำหน้าที่เป็นประธาน (subject) เสมอ รูปกริยาของประธานที่เป็น who จะใช้เอกพจน์หรือพหูพจน์ก็ได้ และคำตอบที่ได้มักจะเป็นชื่อคน โดยมีรูปแบบโครงสร้างประโยคต่อไปนี้
โครงสร้างประโยคคำถาม | Who + verb + object ? |
ตัวอย่าง | |
โครงสร้างประโยคคำถาม | โครงสร้างประโยคคำตอบ |
A : Who is your teacher ? | B : Mrs. Wanpen is my teacher. |
A : Who is making cook ? | B : My mother is making cook. |
A : Who are these boys ? | B : Boonchu and Kasem. |
A : Who sings this song ? | B : Nara sings this song. |
Whom
2. Whom มีความหมายว่า “ใคร” เป็น Pronoun อย่างเดียว ใช้ถามถึงบุคคลและใช้เป็นกรรม(object) ของกริยาหรือของบุรพบทในประโยค โดยมีรูปแบบโครงสร้างประโยคต่อไปนี้
โครงสร้างประโยคคำถาม | Whom + helping verb + subject + verb ? |
ตัวอย่าง | |
โครงสร้างประโยคคำถาม | โครงสร้างประโยคคำตอบ |
A : Whom do they meet ? | B : They meet their friends. |
A : Whom did you meet yesterday ? | B : I meet Winai. |
A : Whom does she go with ? | B : She goes with her mother. |
A : Whom are you speaking to ? | B : I am speaking to my friends. |
Whose
3. Whose มีความหมายว่า “ใคร” เป็นได้ทั้ง Adjective (ใช้โดยมีนามตามหลัง) และ pronoun (ใช้โดยไม่มีนามตามหลัง) ใช้กับคนเท่านั้น ใช้เพื่อถามหาเจ้าของ โดยมีรูปแบบโครงสร้างประโยคต่อไปนี้
โครงสร้างที่ 1
โครงสร้างประโยคคำถาม | Whose + noun(s) + is / are …….. ? |
ตัวอย่าง | |
โครงสร้างประโยคคำถาม | โครงสร้างประโยคคำตอบ |
A : Whose car is black? | B : It is John’s car. |
A : Whose skirt is that ? | B : It is my skirt. |
A : Whose books are in my backpack ? | B : They are the boys’ books. |
โครงสร้างที่ 2
โครงสร้างประโยคคำถาม | Whose + noun + do / does + subject + object ? |
ตัวอย่าง | |
โครงสร้างประโยคคำถาม | โครงสร้างประโยคคำตอบ |
A : Whose book do you borrow ? | B : I borrow Somsak’s book. |
A : Whose bicycle does James ride ? | B : James rides his bicycle. |
A : Whose cell phone do Jane and Jim use? | B : They use their cell phone. |
โครงสร้างที่ 3
โครงสร้างประโยคคำถาม | Whose + is/are + this/that/those/these + noun(s) ? |
ตัวอย่าง | |
โครงสร้างประโยคคำถาม | โครงสร้างประโยคคำตอบ |
A : Whose is that car ? | A : Whose is that car ? |
A : Whose are those dogs ? | A : Whose are those dogs ? |
A : Whose are these jeans ? | A : Whose are these jeans ? |
What
4. What มีความหมายว่า “อะไร” ใช้ถามอาชีพ ชื่อบุคคล สัญชาติ สิ่งของ เวลา สิ่งที่ชอบ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ วัน วันที่ เดือน โดยมีรูปแบบโครงสร้างประโยคต่อไปนี้
4.1 ใช้ What ถามอาชีพต่างๆ
โครงสร้างที่ 1
โครงสร้างประโยคคำถาม | 1. What + (is/are) + subject ? 2. What + (do/does) + subject + do ? |
ตัวอย่าง | |
โครงสร้างประโยคคำถาม | โครงสร้างประโยคคำตอบ |
A : What is your father ? | B : He is a farmer. |
A : What are you ? | B : I am a student. |
A : What is Ms.Paweena ? | B : She is a English teacher. |
A : What does Manop do ? | B : He is a policeman. |
A : What do your parents do ? | B : They are farmer. |
A : What do you do ? | B : I am a teacher. |
4.2 ใช้ What ถามชื่อบุคคล
โครงสร้างประโยคคำถาม | What + (is/are) + (your/his/her) + name ? |
ตัวอย่าง | |
โครงสร้างประโยคคำถาม | โครงสร้างประโยคคำตอบ |
A : What is your name ? | B : My name is Paweena. |
A : What is his name ? | B : His name is Manop. |
A : What are their names ? | B : Their names are Pee and Dee. |
4.3 ใช้ What ถามสัญชาติ
โครงสร้างประโยคคำถาม | What + (is/are) + (your/his/her/their) + nationality ? |
ตัวอย่าง | |
A : What is your nationality ? | B : I am Thai. |
A : What is his nationality ? | B : He is Thai. |
A : What is her nationality ? | B : She is Thai. |
A : What are their nationality ? | B : They are Japanese. |
4.4 ใช้ What ถามเกี่ยวกับสิ่งของ
โครงสร้างประโยคคำถาม | What + (is/are) + (this/that/those/these) ? |
ตัวอย่าง | |
โครงสร้างประโยคคำถาม | โครงสร้างประโยคคำตอบ |
A : What is this ? | B : It is my pen. |
A : What is that ? | B : It is a book. |
A : What are these ? | B : They are new computers. |
A : What are those ? | B : They are his books. |
4.5 ใช้ What ถามเกี่ยวกับเวลา
โครงสร้างประโยคคำถาม | 1. What + time + is + it ? 2. What + is + the time ? |
ตัวอย่าง | |
โครงสร้างประโยคคำถาม | โครงสร้างประโยคคำตอบ |
A : What time is it ? | B : It is seven o’clock. |
A : What is the time ? | B : It is ten - five. |
4.6 ใช้ What ถามเกี่ยวกับสิ่งของที่ชอบ
โครงสร้างประโยคคำถาม | What + noun(s) + (do/does) + subject + verb ? |
ตัวอย่าง | |
โครงสร้างประโยคคำถาม | โครงสร้างประโยคคำตอบ |
A : What colour do you like ? | B : I like red. |
A : What Thai food does Jim like ? | B : He likes Tom Yam Koong. |
A : What is your favorite fruit ? | B : I like bananas. |
4.7 ใช้ What ถามที่อยู่ ถาม e - mail
โครงสร้างประโยคคำถาม | What + is + (your/his/her) + (address/ e-mail address ? |
ตัวอย่าง | |
โครงสร้างประโยคคำถาม | โครงสร้างประโยคคำตอบ |
A : What is your address ? | B : It is 10 Sukumwit Road,Bangkok. |
A : What is Malee’s address? | B : It is 10 Moo 4, Tambon Nai Muang, Amphoe Muang, Surin (32000). |
A : What is your e-mail address ? | B : It is vee_123@hotmail.com |
A : What is his e-mail address ? | B : It is ooo_ooo@yahoo.com |
4.8 ใช้ What ถามเบอร์โทรศัพท์
โครงสร้างประโยคคำถาม | What + is + (your/his/her) + telephone number ? |
ตัวอย่าง | |
โครงสร้างประโยคคำถาม | โครงสร้างประโยคคำตอบ |
A : What is your telephone number ? | B : It is 044-512282. |
A : What is his telephone number ? | B : It is 088-0981256. |
4.9 ใช้ What ถามวัน วันที่ เดือน
โครงสร้างประโยคคำถาม : ถามวัน โครงสร้างประโยคคำถาม : ถามวันที่ โครงสร้างประโยคคำถาม : ถามเดือน | 1. What day is today ? 2. What day is it ? 1. What is the date ? 2. What is the date today ? 1. What month is this month ? 2. What month is it ? |
โครงสร้างประโยคคำถาม | โครงสร้างประโยคคำตอบ |
A : What day is today ? | B : It is Sunday. |
A : What day is it ? | B : It is Wednesday. |
A : What is the date ? | B : It is 18th July. |
A : What is the date today ? | B : It is 18th July. |
A : What month is this month ? | B : It is January February March. |
A : What month is it ? | B : It is January February March. |
Where
5. Where มีความหมายว่า “ที่ไหน” เป็น Adverb อย่างเดียว ใช้ถามเมื่อต้องการทราบเกี่ยวกับสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่ หรือที่ที่จะไปถึงไปสู่ เวลาตอบจะต้องตอบเป็นชื่อของสถานที่ต่างๆ เช่น ชื่อถนน ชื่อเมือง ชื่อประเทศ ฯลฯ และที่สำคัญจะต้องมีคำบุพบท (preposition) โดยมีรูปแบบโครงสร้างประโยคต่อไปนี้
โครงสร้างที่ 1
โครงสร้างประโยคคำถาม | 1. Where + (is/are/am) + subject ? 2. Where + do/does + subject + verb ? |
ตัวอย่าง | |
โครงสร้างประโยคคำถาม | โครงสร้างประโยคคำตอบ |
A : Where is Muang Surin School ? | B : It is in Surin. |
A : Where are the students ? | B : They are in the classroom. |
A : Where are you going ? | B : I going to school. |
A : Where do you live ? | B : I live in Thailand. |
A : Where does Pam come from ? | B : She comes from Japan. |
A : Where do they work ? | B : They work in a garden. |
A : Where do you meet him ? | B : I meet him at school. |
When
6. When มีความหมายว่า “เมื่อไร” เป็นได้ Adverb อย่างเดียว ใช้ถามเมื่อต้องการทราบเกี่ยวกับเวลา แต่ไม่ได้เจาะจงเวลาเหมือนกับการใช้ประโยคคำถาม “What time” เวลาตอบอาจจะตอบเป็นวัน วันที่ เดือน ปี หรืออาจจะเป็นเวลาจากนาฬิกาก็ได้ โดยมีรูปแบบโครงสร้างประโยคต่อไปนี้
โครงสร้างประโยคคำถาม | When + (กริยาช่วย) + subject + กริยาอื่น…….? |
ตัวอย่าง | |
โครงสร้างประโยคคำถาม | โครงสร้างประโยคคำตอบ |
A : When is your birthday ? | B : It is in July. B : It is in Summer. B : It is on 21st July. |
A : When is the meeting ? | B : It is on Monday morning. |
A : When are you coming here ? | B : I am coming here next month. |
A : When do they go to school ? | B : They go to school at 6.30. |
A : When do you get up ? | B : I get up at 5.30. |
A : When will you start to read for test ? | B : I will start tomorrow night. |
Why
7. Why มีความหมายว่า “ทำไม” หรือ “เพราะอะไร” ใช้ถามเมื่อต้องการทราบเหตุผล สาเหตุ หรือจุดประสงค์ เวลาตอบต้องใช้คำว่า Because ซึ่งมีความหมายว่า “เพราะว่า” หรือ “เนื่องจาก” หรือ in order to, to, so as to, หรือ for ตัวใดตัวหนึ่ง โดยมีรูปแบบโครงสร้างประโยคต่อไปนี้
โครงสร้างประโยคคำถาม | 1. Why + (is/are) + noun/pronoun + adjective ? 2. Why + do/does + subject + verb + object ? |
ตัวอย่าง | |
โครงสร้างประโยคคำถาม | โครงสร้างประโยคคำตอบ |
A : Why are you late ? | B : I am late because the traffic is very heavy. |
A : Why is he sad ? | B : He is sad because his mother is sick. |
A : Why do you like Lisa ? | B : I like her because she is beautiful. |
A : Why did you go to the bookshop ? | B : I went there to buy a book. |
A : Why don’t you go with her ? | B : I don’t go with her because I am not free. |
A : Why did he go to the office ? | B : He went there for work. |
Which
8. Which มีความหมายว่า อันไหน คนไหน สิ่งไหน ฯลฯ ใช้ถามได้ทั้งคน สัตว์และสิ่งของต่างๆ เวลาตอบให้เลือกตอบอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยมีรูปแบบโครงสร้างประโยคต่อไปนี้
โครงสร้างที่ 1
โครงสร้างประโยคคำถาม | 1. Which + helping verb + …………. ? 2. Which + nouns + helping verb + ………. ? |
ตัวอย่าง | |
โครงสร้างประโยคคำถาม | โครงสร้างประโยคคำตอบ |
A : Which is his friend, a boy or a girl ? | B : A girl. |
A : Which is his, a green bike or a red bike ? | B : The red bike. |
A : Which do you like, blue or red ? | B : I like red. |
A : Which elephant do you like ? | B : I like the pink one. |
A : Which shoes are John’s, pink or brown ? | B : The brown ones. |
A : Which car will you buy for my birthday ? | B : The brown ones. |
ข้อสังเกต : การตอบประโยคคำถามที่ผู้ถามต้องการให้ผู้ตอบเลือกเอาสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ผู้ตอบมักจะใช้คำสรรพนาม one/ones แทนคำที่เลือกเสมอ เพราะคำนามนั้นจะถูกระบุถึงครั้งแรกในประโยคคำถาม
การใช้ One/Ones
One/Ones เป็นคำสรรพนามที่ใช้แทนคำนามที่กล่าวถึงแล้วครั้งหนึ่งและคำนามนั้นต้องเป็นคำนามที่สามารถนับได้ โดยมีวิธีใช้ดังนี้
- One ใช้แทนคำนามนับได้ในรูปเอกพจน์ มีความหมายว่า คนหนึ่งคน สัตว์หนึ่งตัว สิ่งของหนึ่งอัน เช่น
I have a bike but it is old one. (I have a bike but it is an old one bike)
จากตัวอย่าง จะใช้ one แทน bike ซึ่งถูกกล่าวถึงในประโยคแรก
- Ones ใช้แทนคำนามนับได้ในรูปพหูพจน์ มีความหมายว่า คนหลายคน สัตว์หลายตัว สิ่งของหลายอัน เช่น
There are tall boys at the blackboard. There are fat ones at the table.
จากตัวอย่าง จะใช้ ones แทน boys ซึ่งถูกกล่าวถึงในประโยคแรก
How
9. How มีความหมายว่า อย่างไร เท่าใด แค่ไหน ใช้ถามเพื่อต้องการทราบถึงวิธีการ ลักษณะของบุคคล ถามอายุ ความสูง น้ำหนัก ความยาว ระยะทาง โดยมีรูปแบบโครงสร้างประโยคต่อไปนี้
9.1 ใช้ How ใช้ถามวิธีการ
โครงสร้างประโยคคำถาม | How + do/does + subject + verb ? |
ตัวอย่าง | |
โครงสร้างประโยคคำถาม | โครงสร้างประโยคคำตอบ |
A : How do you go to school ? | B : I go to school by bus/on foot. |
A : How does Tata Young sing ? | B : She sings beautifully. |
A : How do Jim and Jane run ? | B : They run slowly. |
9.2 ใช้ How ตามด้วยคำ adjective ใช้ถามอายุ ความสูง น้ำหนัก ความยาว ระยะทาง
โครงสร้างประโยคคำถาม | How + adjective + verb to be + subject ? |
ตัวอย่าง | |
โครงสร้างประโยคคำถาม | โครงสร้างประโยคคำตอบ |
ถามอายุ | A : How old are you ? A : How old is Jim ? A : How old are those babies ? | B : I am 18 years old. B : He is 18 years old. B : They are 7 months old. |
ความสูง | A : How tall are you ? A : How tall is your mother ? | B : I am 1 m. and 60 cm. tall. B : She is 156 cm. |
น้ำหนัก | A : How heavy is Suchada ? A : How heavy are you ? | B : She is 70 kilos. B : I am 45 kilos. |
ความยาว | A : How long is a ruler ? | B : It is 12 inches long. |
ระยะทาง | A : How far is it from here to Suchai ? | B : It is about 24 km. |
9.3 ใช้ How ถามเกี่ยวกับสุขภาพ
โครงสร้างประโยคคำถาม | How + is/are + subject ? |
ตัวอย่าง | |
โครงสร้างประโยคคำถาม | โครงสร้างประโยคคำตอบ |
A : How are you ? | B : I am very well. |
A : How is your wife ? | B : She is fine. |
9.4 How ใช้กับ many เพื่อถามว่าบุคคลนั้นมีสมาชิก มีสัตว์เลี้ยงหรือสิ่งของต่างๆ จำนวนเท่าใด
โครงสร้างประโยคคำถาม | How many + nouns + do/does + subject + verb ? |
ตัวอย่าง | |
โครงสร้างประโยคคำถาม | โครงสร้างประโยคคำตอบ |
A : How many sisters do you have ? | B : I have one sister. |
A : How many apples does your mom buy? | B : She buys four apples. |
9.5 How ใช้กับ many เพื่อถามจำนวนคน สิ่งของ หรือสัตว์ว่ามีจำนวนเท่าใด
โครงสร้างประโยคคำถาม | How many nouns + are there + complement ? | |
ตัวอย่าง | ||
โครงสร้างประโยคคำถาม | โครงสร้างประโยคคำตอบ | |
A : How many students are there in this class ? | B : There are 34 students. | |
A : How many people are there in your family ? | B : There are 9 in my family. | |
9.6 How ใช้กับ much เพื่อถามจำนวนสิ่งของที่นับไม่ได้
โครงสร้างประโยคคำถาม | How much + uncountable noun + do/does + subject + verb ? |
ตัวอย่าง | |
โครงสร้างประโยคคำถาม | โครงสร้างประโยคคำตอบ |
A : How much coffee do drink a day ? | B : I drink only cup a day. |
A : How much money does she have ? | B : She has a lot of money. |
9.7 How ใช้กับ much เพื่อถามราคาของสิ่งต่างๆ
โครงสร้างประโยคคำถาม | How much + is/are + noun ? |
ตัวอย่าง | |
โครงสร้างประโยคคำถาม | โครงสร้างประโยคคำตอบ |
A : How much is this shirt ? | B : It is 400 baht. |
A : How much are these shoes ? | B : They are 600 baht. |
สรุปการใช้ Wh – Question
Wh – Question เป็นคำที่ใช้ขึ้นต้นประโยคคำถาม เพื่อต้องการทราบคำตอบหรือข้อมูล ซึ่งแต่ละตัวจะใช้คำถามเพื่อต้องการทราบข้อมูลที่แตกต่างกัน
Wh – Question มีทั้งหมด 9 ตัว คือ
What ใช้ถามเกี่ยวกับสิ่งของ ชื่อ อาชีพ สัญชาติ เวลา สิ่งที่ชอบ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ วัน วันที่ เดือนWhere ใช้ถามเกี่ยวกับสถานที่
When ใช้ถามเกี่ยวกับเวลา
Why ใช้ถามเพื่อต้องการทราบเหตุผล
Who ใช้ถามเพื่อต้องการทราบเกี่ยวกับบุคคล
Whose ใช้ถามหาเจ้าของ
Whom ใช้ถามเพื่อต้องการทราบเกี่ยวกับบุคคล แต่บุคคลนั้นต้องทำหน้าที่เป็นกรรม
Which ใช้ถามเพื่อให้เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง
How ใช้ถามเกี่ยวกับลักษณะ ถามอายุ ถามอาการ ถามสุขภาพ ฯลฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น